ห้องที่ ๓๓ : หม่อมราชวงษวิณ


          ลูกลมเหาะลิ้วล้ำเลยลง กาเฮย
เหนกุฎินักสิทธิจงจิตรแผ้ว
อยุดแปลงดุจลิงดงกายเล็ก
ลอบสู่สิทธาแล้วยอบเกล้าอภิวันท์
          ดาบศนารทป้องภักตรถาม
ถึงถิ่นแลวงษนามเหตุผ้าย
วายุบตรบอกเสความงำเงื่อน เสียนา
แสร้งกล่าวเสริมแต่ท้ายที่ต้องการกล
          ยิลข่าวฦๅเลื่องก้องโกลา หลพ่อ
เมืองพิไชยลงกาบัดกี้
แสนสนุกนิ์เฉกสุราไลยเลิศ นักนอ
เชิญพระฅณช่วยชี้ทิศข้าอยากเหน
          พระมุนีชี้บอกด้าวโดยพลัน
กรุงยักษอยู่เขาตวันตกใต้
ลิงว่าค่ำนี้ฉันฃอพัก ค้างนอ
นักพรตแนะกุฎิ์ให้กบี่เข้าเนานอน
          สวาตรินักสิทธิ์ใกล้กรุงยักษ อยู่แฮ
ลองเล่ห์ให้ปจักษจิตรแจ้ง
พลันร่ายเวทสิทธิศักดาเดช
กายคับกุฎิโดยแกล้งอัดห้องร้องอึง
          พระดาบศโปรดด้วยศาลา เล็กนา
เตมแคบกายกรขาคุดคู้
ฤๅษีว่าสวามาลองเล่ห์ กูฤๅ
ท่านก็อุส่าห์สู้นิมิตรให้กุฎิมหันต์
          ลิงยิ่งโตท่านต้องตามนิมิตร กุฎิแฮ
กวนร่ำนักสิทธิคิดขุ่นข้อง
จักให้กบี่บงฤทธิรีบร่าย มนต์เฮย
หมุนกลับเข้ายังห้องหน่วงน้อมชลกษีณ
          เข้าฌานเพ่งจิตรแผ้วบริสุทธิ
ดาลพรุณตกรุตกบี่ร้อง
ข้าหนาวนั่งคู้คุดคางสั่น
กายยอบหมอบครางก้องท่านให้ไฟผิง
          ฝนหยุดลิงหลับแล้วนารท
สู่สระธารกรจรดเศกขว้าง
เปนปลิงสั่งกำหนดเสรจกลับ กุฎินา
สวาตื่นไปสระล้างภักตรก้มอมชล
          ธารกรชัลลุกเข้าเกาะคาง ลิงแฮ
สองหัดถ์รั้งปลิงพลางวุ่นว้า
มาถึงกุฎิกบี่ครางดาบศ สรวลฮา
ท่านปลดปลิงชี้หน้านี่ไม้ธารกร
          ลิงหลาบสารภาพน้อมรับผิด
กรานกราบลานักสิทธิลิ่วฟ้า
สู่หระดีทิศเดชกเดื่อง
เสียงสนั่นลั่นหล้ามุ่งเมื้อนิลไศล
          อากาศไตลยักษเสื้อเมืองมาร
สึงมัชฌิมเลงการรอบด้าว
สี่ภักตร์แปดกรทยานอาวุธ ครบแฮ
ขรรค์จักรคทาง้าวหอกค้อนศรตรี
          เหนสวาเรห็จคว้างขวางภักตร์
มารเผ่นอำพรกักกล่าวกล้า
ถามนามอีกสำนักนิ์เองเผ่า ใดเฮย
คือส่วยมาส่งข้าคับแค้นอาหาร
          กบี่บอกตคอกเค้นคำดุ
ตูดุจตัวมัจจุราชท้าว
หลานกากาจอาจลุลุยยักษ แตกฮือ
ถึงทศกรรฐจอมด้าวห่อนพ้นกรกู
          ยักษสั่งปิศาจให้รุมจับ ลิงเฮย
พลภูตพรายรุดรับไขว่คว้าง
หณุมานจับตรีสับปิศาจหมด ม้วยแฮ
แทตยทุบแทงฟันขว้างพลาดซ้ำถลำถลา
          กระบี่รับจับจ้วงจิกศก มารเฮย
ตรีตัดสอตัวตกเด็จดิ้น
โยนเศียรสู่อุทกลิบลึก
เสร็จฆ่าเสื้อเมืองสิ้นชีพแล้วเหาะจร
          จวบค่ำจันทรสร่องพื้นนภางค์
สวาเพ่งแสวงพบปรางยอดห้า
ลงไผทแอบดูทางผสบแทตย์ กระเวนเฮย
ฆ้องเกราะเสียงเกริกกล้าตรวจป้อมทวารเวียง
          ลิงนิมิตรร่างแม้นรูปมาร
โดยยักษเดินยังพลานหยุดด้อม
ลับราพอ่านเวทชาญสกดสงัด วังแฮ
ทั้งนาฎมณโฑพรอมสถิตยด้วยทศเศียร
          หณุมานคลายเวทย้อนเปนลิง
องอาจผาดดังสิงห์เผ่นเข้า
ปรางหนึ่งยักษเอนอิงเขนยพินิจ สมุดแฮ
หัดถ์จับดินสอเค้าเลขค้างกดานโหร
          สวาพิศผิดแพ่นขึ้นปรางถัด ถั่นเฮย
ยลยักบ์ล่ำคทารัตน์แอบข้าง
กับนางยักษร่วมปัจฐรณแท่น
สนมหมู่มเมอบ้างเบียดเคล้าสใบขยาย
          ผิดองค์ลิงแล่นค้นปรางมณี หนึ่งนา
พบแทตยหนุ่มเขียวศรีเฉกย้อม
นางร่วมแท่นเลิศฉวีวรรณผ่อง ภักตรเอย
สามเล่มศิลป์ไชยพร้อมท่าแกล้วการณรงค์
          กลับสู่ปรางสี่ได้เหนองค์
ทศภักตร์แนบอนงค์สนิทเนื้อ
ตริว่าลักษมีปลงจิตรเสน่ห์ มารแฮ
โกรธยักษชักตรีเงื้อปจวบจิ้งจกเสียง
          ลิงฉงนดลนึกได้นางมณ โฑแฮ
อีกหมู่พระสนมยลเพียบพื้น
ภัควดีอยู่ใดจนจิตรคิด ไฉนนา
ตริยิ่งตันใจตื้นเตร่ค้นสกลสถาน
          สวาจรจบห้องห่อนปสบสี ดานา
กลับกุฎิพบมุนีนบพร้อง
ข้าเที่ยวถิ่นบูรีรมย์เลิศ จริงนอ
องค์พระคุณเกี่ยวข้องยักษคุ้นเคยไฉน
          นักธรรมเล่ายักษล้วนทรชน
ลิงว่าโกลาหลยักษได้
สีดาแต่ไพรสณฑ์วิไลยลักษณ เลิศแล
มารสวาศฤๅละไว้ใคร่แจ้งแห่งโฉม
          สิทธาว่ากบี่ก้อเกินกาย
อย่าก่อเจ้าชู้ชายเช่นเจ้า
พระพรูคู่นารายน์ทศภักตร ลักเฮย
ไว้ที่สวนนางเศร้าขุ่นแค้นเคืองมาร
          กรบินทรประจักษแจ้งจึงขาน คำแฮ
ข้าแม่นข้าอวตารตรัสใช้
สืบข่าวลักษมีมารมันลัก มานา
นารททราบชัดให้อิ่มด้วยเดชนรายน์
          จึ่งเศกสวัสดิให้แดหะ ณุมานเฮย
ยักษพวกลงกาพะพ่ายเจ้า
อาษาเสร็จสมพระจักรกฤษณ สั่งแฮ
ลิงรับพรอ่อนเกล้าเหาะผ้ายสวนอสูร

จบห้องที่ ๓๓

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานเหาะเลยกรุงลงกา เห็นอาศรมพระนารทฤษีก็ลงไปแล้วแปลงร่างเป็นลิงป่าเข้าไป พระนารทฤษีถามชื่อ หนุมานไม่บอกแต่แสร้งถามถึงกรุงลงกาบอกว่าจะไปเที่ยวชม พระนารทฤษีชี้บอกทางให้ หนุมานขอพักค้างคืน พระนารทฤษีจึงให้ไปนอนที่ศาลา หนุมานคิดว่าพระฤษีเป็นฝ่ายกรุงลงกาก็คิดลองฤทธิ์ จึงร่ายเวทให้กายใหญ่โตคับศาลาแล้วร้องเรียกพระนารทฤษี พระนารทฤษีรู้ว่าถูกลองฤทธิ์จึงเนรมิตให้ศาลาใหญ่ขึ้นอีก หนุมานร่ายเวทให้กายใหญ่โตขึ้นไปอีก พระนารทฤษีก็เนรมิตศาลาให้ใหญ่ตามอีกหลายครั้งจนนึกเคือง คิดจะให้หนุมานเห็นฤทธิ์บ้าง จึงร่ายมนตร์ให้ฝนตกหนักจนหนุมานหนาวสั่นหมอบคุดคู้ครวญคราง พระนารทฤษีจึงเนรมิตไฟให้หนุมานผิง เมื่อหนุมานหลับแล้ว พระนารทฤษีจึงเสกไม้เท้าโยนลงน้ำเป็นปลิง เมื่อหนุมานตื่นขึ้นไปล้างหน้าที่สระ ปลิงก็เกาะที่คาง หนุมานพยายามดึงปลิงออกแต่ไม่สำเร็จต้องมาขอให้พระนารทฤษีช่วย พระนารทฤษีปลดออกแล้วบอกว่าเป็นไม้เท้า หนุมานเห็นฤทธิ์พระนารทฤๅษีจึงขยาด กราบขอสารภาพผิด แล้วลาพระนารทฤษีเหาะไปทางทิศหรดียังเขานิลกาลา
  กล่าวถึงอากาศตะไลยักษ์เสื้อเมืองกรุงลงกา มีสี่หน้าแปดมือถืออาวุธครบครัน เห็นหนุมานเหาะมาก็เหาะขึ้นไปหมายจะสังหารและเข้าต่อสู้กัน อากาศตะไลถูกหนุมานฆ่าตาย หนุมานเหาะต่อไปจนถึงปราสาท แปลงกายเป็นยักษ์เดินตามพวกยักษ์ไปจนถึงหน้าพระลาน พอลับตาก็ร่ายมนตร์สะกดให้หลับไปทั้งปราสาท แล้วคืนร่างเป็นวานรเดินเข้าไปค้นหานางสีดาในปราสาทต่าง ๆ จนเข้าไปในปราสาทที่ ๔ เห็นทศกัณฐ์นอนอยู่กับนางคนหนึ่ง คิดว่านางสีดาปลงใจรักทศกัณฐ์แล้ว ก็โกรธ ชักตรีออกเงื้อ ได้ยินเสียงจิ้งจกทัก ฉุกคิดได้ว่าเป็นนางมณโฑ หนุมานเที่ยวค้นทั้งวังแต่ไม่พบนางสีดา จึงเหาะกลับไปอาศรมพระนารทฤษี และบอกพระนารทฤษีว่าไปเที่ยวชมกรุงลงกา ได้ยินว่าทศกัณฐ์ไปเที่ยวป่าได้นางสีดาซึ่งมีรูปโฉมงามยิ่งนัก ทศกัณฐ์พานางไปไว้ที่ใด ตนใคร่ยลโฉมนาง พระนารทฤษีจึงบอกว่าทศกัณฐ์ไปลักนางสีดาชายาของพระรามมาไว้ที่อุทยานกรุงลงกา แต่นางไม่ยินดีและเคืองแค้นทศกัณฐ์ตลอดมา หนุมานจึงบอกพระนารทฤษีว่าตนเป็นทหารของพระรามมาสืบข่าวนางสีดา พระนารทฤษีอวยพรให้ หนุมานก็เหาะไปยังอุทยานกรุงลงกา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “วายุบุตรบอกเสความ”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทั้งนาฎมณโฑพร้อม”